โคลนของ Dead Sea มีดีอะไร? แล้วทำไมคนถึงอยากวิ่งเข้าใส่?
โคลนของ Dead Sea มีดีอะไร? แล้วทำไมคนถึงอยากวิ่งเข้าใส่?หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อของทะเลที่ไม่มีวันจม หรือทะเลสาบเดดซีกันมาบ้างแล้ว แต่ทราบกันหรือไม่ว่า โคลนของทะเลสาบสุดพิศวงแห่งนี้ เต็มไปด้วยเกลือ และแร่ธาตุหลากชนิด อาทิ โพแทสเซียม, แคลเซียม และอีกมากมาย ที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว, ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น นักท่องเที่ยวจึงอยากนำมาพอกผิวหากมีโอกาสและแน่นอนว่าที่ประเทศจอร์แดน โคลน Dead Sea ก็ถือเป็นของฝากยอดนิยม ที่เหล่านักเดินทางมักจะซื้อกลับไปฝากครอบครัว หรือคนรักกันอีกด้วย
ทะเลสาบ Dead Sea
คุณกำลังลอยคอในทะเลสาบที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! ประสบการณ์อย่างแรกที่คุณจะได้รับจากทะเลสาบ Dead Sea คือ คุณกำลังลอยตัวอยู่บนทะเลที่มีความลึกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! โดยมีจุดที่ลึกที่สุดคือ 400 เมตร และยังอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลทั่วไปถึง 417.5 เมตร หรือคิดง่ายๆ ก็คือเราอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดของพื้นโลกนั่นเองคุณกำลังอยู่ในทะเลที่เค็มที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! นอกจากเป็นทะเลที่มีความต่ำมากที่สุดของโลกแล้ว ยังเป็นทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลกอีกด้วย! โดย Dead Sea มีเกลือและแร่ธาตุต่างๆ มากกว่าทะเลปกติถึง 30% และมีเกลือปริมาณมาก จึงทำให้เค็มกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่าเลยทีเดียว และด้วยปริมาณแร่ธาตุที่มีมากนี้เอง ทำให้โคลนที่เดดซี สามารถนำมาพอกผิวหน้าและผิวกายได้ โดยจะช่วยดูดซับสารพิษตกค้าง และฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงได้อีกด้วยในระหว่างลอยอยู่ในทะเลสาบเดดซี ด้านหลังคุณ คือประเทศอิสราเอล ทะเลสาบ Dead Sea ของประเทศจอร์แดน ตั้งอยู่ติดกับเมือง Hebon หรือเมืองชายแดนของประเทศอิสราเอล โดยเราสามารถชมวิวของทั้งสองประเทศได้ในที่เดียวเลยล่ะครับ แถมยังสวยไม่แพ้กันอีกด้วยชาวจอร์แดนเชื่อกันว่า ในวันหนึ่ง Dead
นคร Jerash
เมืองจีราช เป็นหนึ่งในอดีตเมืองที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดของอาณาจักรโรมัน แห่งดินแดนอาหรับในสมัย ค.ศ. 129 ที่ยังคงไว้ซึ่งซากปรักหักพังของปราสาท อาคาร และเสาจำนวนมาก ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในยุคนั้น นคร Jerash เคยมีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงสถานที่ ที่เป็นศูนย์รวมความบังเทิงของประชาชนอย่างครบครัน อาทิ ห้องอาบน้ำ โรงละคร พลาซ่า และสนามแข่งม้า โดยอาจมีประชากรมากถึง 20,000 คนเลยทีเดียวสิ่งที่ทำให้เมืองจีราช ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองพันเสา” ก็เนื่องจากยังคงไว้ซึ่งซากของสถาปัตยกรรมในยุคอาณาจักรโรมันรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นซากปรักหักพังของอาคาร, เสาสไตล์โรมัน รวมถึงซุ้มโค้งโรมันที่มีความยิ่งใหญ่ และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก Hadrian's Arch หรือซุ้มโค้งของพระเจ้าฮาเดรียน ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นเกียรติ ต่อการเสด็จประพาสกรุง Jerash ของจักรพรรดิฮาเดรียนในปี ค.ศ. 129-130 ที่ยังสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือโรงละครโรมัน